[One-Shot SNSD] Globe [yuri]
โลกของฉันยังคงหมุนต่อไป..
ผู้เข้าชมรวม
982
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เมื่อเช้าฝนตกหนัก
สภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้วันนี้ฉันไม่จำเป็นต้องไปทำงาน อยู่แต่ในบ้านรอรับใต้ฝุ่นลูกถัดไปที่อาจจะมาถึงเร็วหรือช้าตามที่ได้ยินจากกรมอุตุฯ
เนื่องจากเป็นเพียงพนักงานบริษัทตำแหน่งไม่ใหญ่โตมากมาย ทำให้วันนี้ของฉันเป็นวันว่าง อืม...ถึงแม้จะมีอะไรเล็กๆน้อยๆที่ยังไม่จัดการให้เรียบร้อยก็ตาม
แต่ช่างมันเถอะ! อย่างไรเสียวันนี้ฉันก็เริ่มอยากจะอู้บ้างแล้วเหมือนกัน
ฉันนั่งกอดเข่าอยู่ที่ข้างประตูกระจกใส มองออกไปข้างนอกเห็นเพียงเม็ดฝนที่สาดซัดเข้ามาบดบังทัศนียภาพอย่างอื่น...มีเพียงหยดน้ำที่ไหลลงมาตามผิวเรียบลื่นของกระจก
เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงฉันยังคงนั่งอยู่ที่เดิม แต่เมื่อสิบห้านาที่ก่อนฉันอยู่ในห้องนอน อย่าเพิ่งงงกันล่ะ ฉันเพียงเข้าไปหยิบสมุดมาเล่มนึงเท่านั้นเอง
สมุดไดอารี่เก่าๆสุดคร่ำครึที่เลิกบันทึกไปเป็นสิบๆปี
ฉันค่อยๆเปิดหน้าปกที่กระดาษบางๆเริ่มจะกรอบแห้งไปทุกที หน้าปกที่มีลายมือหวัดๆเขียนว่า ‘ของ คิม แทยอน’
ฉันนึกขำตัวเองประจำเมื่อเห็นลายมือหวัดๆนั่น เขียนเพียงชื่อก็น่าจะพอแล้วสำหรับระบุตัวเจ้าของแล้วฉันจะเขียนคำว่า‘ของ’ลงไปทำไมกัน
หลายครั้ง...ที่ไม่เข้าใจตัวเอง
อาจเป็นเพราะ...พอโตแล้ว ความรู้สึกในตอนนั้นมันก็เริ่มจางลงไป
จนเกิดคำถามกับตัวเองบ่อยๆว่า..ทำไม..
เปิดอ่านแบบผ่านตาไปเรื่อยๆจนสะดุดอยู่กับข้อความสั้นๆ สั้นมากๆ
‘ชอบเธอจัง’ อา...มันนานมากๆแล้วจริงๆที่เขียนข้อความนี้ลงไป...รู้สึกเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นแหะ ตอนนี้สมองที่ไม่ค่อยจะมีรอยยักกับเขาสักเท่าไร ก็มีบางสิ่งมาสะกิดต่อมความทรงจำของฉัน
ไม่ได้อยากจะสื่อว่าเพราะอ่านบันทึกในไดอารี่ฉันถึงจำมันได้ แต่เพราะคนเรามีสมุดบันทึกเล่มโตในหัว ที่จดจำทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้แล้ว
บันทึกทุกวัน..บันทึกทุกเวลา..บันทึกทุกนาทีทุกวินาที..บันทึกตั้งแต่เริ่มจำความได้
ไดอารี่ของฉันจึงเป็นเพียงจุดเริ่มต้นสั่งการให้สมองเปิดหาบันทึกหน้านั้นด้วยตัวฉันเอง
ภาพของความทรงจำกลับมาอีกครั้ง ฉันไม่อาจอธิบายได้แต่ขอเรียกมันว่าภาพในมโนทัศน์แล้วกัน
เด็กสาวผมยาว หุ่นเจ้าเนื้อเล็กน้อยพอให้กอดแล้วรู้สึกอบอุ่น หน้าตาหวานใสที่มีรอยยิ้มเป็นอาวุธ เวลาเธอยิ้มดวงตาของเธอจะหรี่เล็กโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว ยอมรับจริงๆว่ารอยยิ้มของเธอมันช่างตาตรึงใจของฉันเหลือเกิน
ยิ้มทีเดียว ก็หยุดโลกทั้งใบที่กำลังหมุนของฉันได้แล้ว
เราเจอกันบ่อยๆที่สถาบันกวดวิชาในปิดเทอมหน้าร้อน ขณะที่ฉันอยู่ม.ปลายปีหนึ่ง และเธอผู้มีตายิ้มหยุดโลกอยู่ม.ปลายปีสอง
คอร์สที่ฉันลงเรียนเป็นคอร์สรวมเด็กม.ปลาย
ฉันมาสาย..ต้องจำใจนั่งหลังสุด สุดจนติดผนังห้องเลยแหละ ช่วงเวลาที่ฉันกำลังนั่งลงเหงื่อโทรมกาย เด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างหน้าฉันหันหน้ามาข้างหลัง
เธอกำลังยิ้มให้ฉัน นั่นคือครั้งแรกที่โลกของฉันหยุดหมุน
เขาว่ากันว่าช่วงเวลาที่มีความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ ถึงฉันจะยังหาคำตอบไม่ได้ว่าเขาคนนั้นคือใครก็เถอะ
ฤดูร้อนกับช่วงม.ปลายปีแรกหมดลงก้าวสู่การเป็นนักเรียนม.ปลายปีที่สอง ฉันยังคงคิดถึงเธอ...
ฉันเพิ่งมารู้ตอนหลัง จากการแอบตามสืบอย่างลับๆเธอชื่อ‘ฮวัง ทิฟฟานี’ดีกรีสาวสวยคนดังของโรงเรียน แล้วฉันไปอยู่ไหนมาล่ะเนี่ย ไม่ยักจะเคยเห็น ฉันชอบเธอเข้าแล้วล่ะ
ฉันพยายามอย่างยิ่งที่จะไปปรากฏตัวให้เธอพอจะชายตามองมาที่ฉัน คิม แทยอนและจดจำฉันได้บ้าง ทำตัวเฮฮาบ้าบอ ทำตัวรั่วๆ ทำเรื่องที่คนอื่นไม่ทำกัน เอาเป็นว่าตอนนี้ฉันไม่ขอพูดถึงมันและกัน
คิดถึงตรงนี้คำถามเดิมก็กลับมาอีกครั้ง
..ทำไม..
..ทำไมฉันถึงทำยอมขนาดนั้น..
ฉันทำตัวอย่างนั้นทุกครั้งที่ฉันเห็นเธอ จนวันหนึ่งฉันพบว่ามันสำเร็จ!
เธอเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับถามฉันว่าฉันคือคนที่โรงเรียนกวดวิชาเมื่อหน้าร้อนใช่ไหม วินาทีนั้นฉันทำตัวไม่ถูกได้แต่พยักหน้าหงึกๆให้กับทิฟฟานี
ให้ตายสิ ฉันไม่อยากเรียกเธอว่าพี่เลย..ไม่อยากให้เธอเป็นแค่พี่
เธอพูดถึงเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของฉัน บอกกับฉันว่าเพื่อนของเธอติดใจเสียงนั่นและอยากได้มันมาใช้มาก ฉันคิดตามแม้จะแอบเคืองนิดๆบนความสุขที่มีมากกว่า ‘ถ้าอยากได้ทำไมไม่มาขอเองล่ะ’
หลังจากเหตุการณ์ที่แสนจะน่าจดจำของฉันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตกเย็นฉันขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง นั่งเพ้อถึงเธออยู่บนเตียง โทรหาเพื่อนสนิทที่อยู่ต่างห้องของฉันแชร์เรื่องของฉันให้ฟัง ก่อนจะได้รับรู้ความจริงอันแสนอึ้งจากปากเพื่อน
แม่สาวตายิ้มนั่นเป็นพี่รหัสเพื่อนสนิทของฉันเอง !
ตอนนั้นฉันดีใจมาก แล้วก็รู้สึกแย่ไปพร้อมๆกัน ดีใจที่ดูเหมือนเธออยู่ใกล้ๆฉันเพียงนิดเดียว และรู้สึกแย่เพราะความดีใจที่มากเกินไป
รู้ว่าตอนนี้กำลังชอบเขา..รู้ว่านี่คือส่วนหนึ่งของคำว่ารัก..แต่ไม่รู้ว่าถ้าฉันเริ่มจีบเธอจริงๆจังๆจะเป็นอย่างไร..ไม่รู้ว่าคำว่าแฟนคืออะไรกันแน่..ไม่รู้ว่าอนาคตความรักแบบนี้จะเป็นอย่างไร..เพราะฉันมองไม่เห็นมันเลย
บางทีฉันแค่คิดมาก..
คิดมากไปจึงตัดใจกับความหวังลมๆแล้งๆแล้วทนเจ็บแบบหน่วงๆไปอีกหนึ่งปี ทนจนเห็นเธอเข้ามหาลัยฯชื่อดังของรัฐไปด้วยรอยยิ้มมีความสุข
วันนั้นเป็นวันของเธอ วันที่ฉันมีความสุขกับรอยยิ้มหยุดโลกของฉัน(ที่คิดไปเอง)เป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนที่โลกของฉันจะเริ่มหมุนอีกครั้งอย่างช้าๆ
ดูท่าว่าการเวิ่นเว้อของฉันจะจบลงเพียงเท่านี้เสียแล้วเมื่อคิดถึงจุดๆนี้
เพื่อนสนิทของฉันเพิ่งไปร่วมฉลองการแต่งงานของเธอเมื่อหนึ่งเดือนก่อน แน่สิสวยแบบนั้นใครๆก็อยากแต่งด้วยทั้งนั้น ฉันคิดมันออกมา
ไม่ต้องห่วงว่าฉันจะเสียใจ อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้ฉันบันทึกไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน นานเกินไปที่คิดจะเอาหัวใจไปเจ็บกับความรักแบบเด็กๆ
ไม่ต้องส่องกระจก ฉันรู้ว่าตอนนี้ฉันกำลังยิ้ม ฉันค่อยๆวางไดอารี่บนพื้นใกล้ๆตัวอย่างช้าๆ แล้วมองออกไปนอกกระจกบานใหญ่
ตอนนี้ฝนหยุดตก
‘มองเห็นทัศนียภาพข้างนอกที่คุ้นชินอย่างที่เคยๆเห็นอยู่ทุกวัน
ไดอารี่ของฉันก็คงเป็นเหมือนกับวันนี้
ข้อความสั้นๆเหล่านั้นก็เหมือนฝนที่กำลังตกหนัก ..มันมองเห็นไม่ชัด..
ส่วนบันทึกในสมองก็คงเหมือนฝนที่หยุดตกแล้ว
แม้จะเลือนรางที่มองไม่ชัด แต่ก็มันยังจำได้ว่าภายนอกเป็นอย่างไร’
โลกของฉันยังคงหมุนต่อไป
.
End .
........................................................................................................
เรื่องนี้แทยอนเริ่มแก่แล้วแน่ๆเลย ฮ่าๆ
ก็ไรเตอร์เคยได้ยินว่าคนแก่ชอบนั่งนึกถึงความหลัง
เอ แต่แก่ก็คงจะฟังดูน่าเกลียดไปเพราะฟานี่ของเราอายุมากกว่าแทยังเพิ่งแต่งงานเลย -*-
เอาเป็นว่าเรื่องนี้เป็นวัยกลางคนและกันเนอะ ^^
ปล.วันช็อตเรื่องที่แล้ว Game ของยูลสิกถ้าใครได้อ่าน(มีคนอ่านไหมเนี่ย ฮ่า ฮ่า) แล้วบอกว่าค้างๆไรเตอร์เองก็ขอสารภาพบาปว่า ตัน!!! บ๊ายบาย ฟิ้ว ~.
ผลงานอื่นๆ ของ H-U-M-A-N ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ H-U-M-A-N
ความคิดเห็น