[One-Shot SNSD] Globe [yuri] - [One-Shot SNSD] Globe [yuri] นิยาย [One-Shot SNSD] Globe [yuri] : Dek-D.com - Writer

    [One-Shot SNSD] Globe [yuri]

    โลกของฉันยังคงหมุนต่อไป..

    ผู้เข้าชมรวม

    982

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    982

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    4
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 พ.ย. 54 / 21:51 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      เมื่อเช้าฝนตกหนัก

      สภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้วันนี้ฉันไม่จำเป็นต้องไปทำงาน อยู่แต่ในบ้านรอรับใต้ฝุ่นลูกถัดไปที่อาจจะมาถึงเร็วหรือช้าตามที่ได้ยินจากกรมอุตุฯ

                      เนื่องจากเป็นเพียงพนักงานบริษัทตำแหน่งไม่ใหญ่โตมากมาย ทำให้วันนี้ของฉันเป็นวันว่าง อืม...ถึงแม้จะมีอะไรเล็กๆน้อยๆที่ยังไม่จัดการให้เรียบร้อยก็ตาม

                      แต่ช่างมันเถอะ! อย่างไรเสียวันนี้ฉันก็เริ่มอยากจะอู้บ้างแล้วเหมือนกัน

                      ฉันนั่งกอดเข่าอยู่ที่ข้างประตูกระจกใส มองออกไปข้างนอกเห็นเพียงเม็ดฝนที่สาดซัดเข้ามาบดบังทัศนียภาพอย่างอื่น...มีเพียงหยดน้ำที่ไหลลงมาตามผิวเรียบลื่นของกระจก

                      เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงฉันยังคงนั่งอยู่ที่เดิม แต่เมื่อสิบห้านาที่ก่อนฉันอยู่ในห้องนอน อย่าเพิ่งงงกันล่ะ ฉันเพียงเข้าไปหยิบสมุดมาเล่มนึงเท่านั้นเอง

                      สมุดไดอารี่เก่าๆสุดคร่ำครึที่เลิกบันทึกไปเป็นสิบๆปี

      ฉันค่อยๆเปิดหน้าปกที่กระดาษบางๆเริ่มจะกรอบแห้งไปทุกที หน้าปกที่มีลายมือหวัดๆเขียนว่า ของ คิม แทยอน

                      ฉันนึกขำตัวเองประจำเมื่อเห็นลายมือหวัดๆนั่น เขียนเพียงชื่อก็น่าจะพอแล้วสำหรับระบุตัวเจ้าของแล้วฉันจะเขียนคำว่าของลงไปทำไมกัน

                      หลายครั้ง...ที่ไม่เข้าใจตัวเอง

                      อาจเป็นเพราะ...พอโตแล้ว ความรู้สึกในตอนนั้นมันก็เริ่มจางลงไป

      จนเกิดคำถามกับตัวเองบ่อยๆว่า..ทำไม..

                      เปิดอ่านแบบผ่านตาไปเรื่อยๆจนสะดุดอยู่กับข้อความสั้นๆ สั้นมากๆ

      ชอบเธอจังอา...มันนานมากๆแล้วจริงๆที่เขียนข้อความนี้ลงไป...รู้สึกเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นแหะ ตอนนี้สมองที่ไม่ค่อยจะมีรอยยักกับเขาสักเท่าไร ก็มีบางสิ่งมาสะกิดต่อมความทรงจำของฉัน

                      ไม่ได้อยากจะสื่อว่าเพราะอ่านบันทึกในไดอารี่ฉันถึงจำมันได้ แต่เพราะคนเรามีสมุดบันทึกเล่มโตในหัว ที่จดจำทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้แล้ว

                      บันทึกทุกวัน..บันทึกทุกเวลา..บันทึกทุกนาทีทุกวินาที..บันทึกตั้งแต่เริ่มจำความได้

                      ไดอารี่ของฉันจึงเป็นเพียงจุดเริ่มต้นสั่งการให้สมองเปิดหาบันทึกหน้านั้นด้วยตัวฉันเอง

                      ภาพของความทรงจำกลับมาอีกครั้ง ฉันไม่อาจอธิบายได้แต่ขอเรียกมันว่าภาพในมโนทัศน์แล้วกัน

      เด็กสาวผมยาว หุ่นเจ้าเนื้อเล็กน้อยพอให้กอดแล้วรู้สึกอบอุ่น หน้าตาหวานใสที่มีรอยยิ้มเป็นอาวุธ เวลาเธอยิ้มดวงตาของเธอจะหรี่เล็กโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว ยอมรับจริงๆว่ารอยยิ้มของเธอมันช่างตาตรึงใจของฉันเหลือเกิน

                      ยิ้มทีเดียว ก็หยุดโลกทั้งใบที่กำลังหมุนของฉันได้แล้ว

      เราเจอกันบ่อยๆที่สถาบันกวดวิชาในปิดเทอมหน้าร้อน ขณะที่ฉันอยู่ม.ปลายปีหนึ่ง และเธอผู้มีตายิ้มหยุดโลกอยู่ม.ปลายปีสอง

                      คอร์สที่ฉันลงเรียนเป็นคอร์สรวมเด็กม.ปลาย

      ฉันมาสาย..ต้องจำใจนั่งหลังสุด สุดจนติดผนังห้องเลยแหละ ช่วงเวลาที่ฉันกำลังนั่งลงเหงื่อโทรมกาย เด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างหน้าฉันหันหน้ามาข้างหลัง

      เธอกำลังยิ้มให้ฉัน นั่นคือครั้งแรกที่โลกของฉันหยุดหมุน

                      เขาว่ากันว่าช่วงเวลาที่มีความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ ถึงฉันจะยังหาคำตอบไม่ได้ว่าเขาคนนั้นคือใครก็เถอะ

      ฤดูร้อนกับช่วงม.ปลายปีแรกหมดลงก้าวสู่การเป็นนักเรียนม.ปลายปีที่สอง ฉันยังคงคิดถึงเธอ...

                      ฉันเพิ่งมารู้ตอนหลัง จากการแอบตามสืบอย่างลับๆเธอชื่อฮวัง ทิฟฟานีดีกรีสาวสวยคนดังของโรงเรียน แล้วฉันไปอยู่ไหนมาล่ะเนี่ย ไม่ยักจะเคยเห็น ฉันชอบเธอเข้าแล้วล่ะ

                      ฉันพยายามอย่างยิ่งที่จะไปปรากฏตัวให้เธอพอจะชายตามองมาที่ฉัน คิม แทยอนและจดจำฉันได้บ้าง ทำตัวเฮฮาบ้าบอ ทำตัวรั่วๆ ทำเรื่องที่คนอื่นไม่ทำกัน เอาเป็นว่าตอนนี้ฉันไม่ขอพูดถึงมันและกัน

                      คิดถึงตรงนี้คำถามเดิมก็กลับมาอีกครั้ง

                      ..ทำไม..

                      ..ทำไมฉันถึงทำยอมขนาดนั้น..

                      ฉันทำตัวอย่างนั้นทุกครั้งที่ฉันเห็นเธอ จนวันหนึ่งฉันพบว่ามันสำเร็จ!

                      เธอเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับถามฉันว่าฉันคือคนที่โรงเรียนกวดวิชาเมื่อหน้าร้อนใช่ไหม วินาทีนั้นฉันทำตัวไม่ถูกได้แต่พยักหน้าหงึกๆให้กับทิฟฟานี

                      ให้ตายสิ ฉันไม่อยากเรียกเธอว่าพี่เลย..ไม่อยากให้เธอเป็นแค่พี่

                      เธอพูดถึงเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของฉัน บอกกับฉันว่าเพื่อนของเธอติดใจเสียงนั่นและอยากได้มันมาใช้มาก ฉันคิดตามแม้จะแอบเคืองนิดๆบนความสุขที่มีมากกว่า ถ้าอยากได้ทำไมไม่มาขอเองล่ะ

                      หลังจากเหตุการณ์ที่แสนจะน่าจดจำของฉันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตกเย็นฉันขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง นั่งเพ้อถึงเธออยู่บนเตียง โทรหาเพื่อนสนิทที่อยู่ต่างห้องของฉันแชร์เรื่องของฉันให้ฟัง ก่อนจะได้รับรู้ความจริงอันแสนอึ้งจากปากเพื่อน

                      แม่สาวตายิ้มนั่นเป็นพี่รหัสเพื่อนสนิทของฉันเอง !

                      ตอนนั้นฉันดีใจมาก แล้วก็รู้สึกแย่ไปพร้อมๆกัน ดีใจที่ดูเหมือนเธออยู่ใกล้ๆฉันเพียงนิดเดียว และรู้สึกแย่เพราะความดีใจที่มากเกินไป

      รู้ว่าตอนนี้กำลังชอบเขา..รู้ว่านี่คือส่วนหนึ่งของคำว่ารัก..แต่ไม่รู้ว่าถ้าฉันเริ่มจีบเธอจริงๆจังๆจะเป็นอย่างไร..ไม่รู้ว่าคำว่าแฟนคืออะไรกันแน่..ไม่รู้ว่าอนาคตความรักแบบนี้จะเป็นอย่างไร..เพราะฉันมองไม่เห็นมันเลย

                      บางทีฉันแค่คิดมาก..

                      คิดมากไปจึงตัดใจกับความหวังลมๆแล้งๆแล้วทนเจ็บแบบหน่วงๆไปอีกหนึ่งปี ทนจนเห็นเธอเข้ามหาลัยฯชื่อดังของรัฐไปด้วยรอยยิ้มมีความสุข

                      วันนั้นเป็นวันของเธอ วันที่ฉันมีความสุขกับรอยยิ้มหยุดโลกของฉัน(ที่คิดไปเอง)เป็นครั้งสุดท้าย

                      ก่อนที่โลกของฉันจะเริ่มหมุนอีกครั้งอย่างช้าๆ

                      ดูท่าว่าการเวิ่นเว้อของฉันจะจบลงเพียงเท่านี้เสียแล้วเมื่อคิดถึงจุดๆนี้

      เพื่อนสนิทของฉันเพิ่งไปร่วมฉลองการแต่งงานของเธอเมื่อหนึ่งเดือนก่อน แน่สิสวยแบบนั้นใครๆก็อยากแต่งด้วยทั้งนั้น ฉันคิดมันออกมา

                      ไม่ต้องห่วงว่าฉันจะเสียใจ อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้ฉันบันทึกไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน นานเกินไปที่คิดจะเอาหัวใจไปเจ็บกับความรักแบบเด็กๆ

      ไม่ต้องส่องกระจก ฉันรู้ว่าตอนนี้ฉันกำลังยิ้ม ฉันค่อยๆวางไดอารี่บนพื้นใกล้ๆตัวอย่างช้าๆ แล้วมองออกไปนอกกระจกบานใหญ่

      ตอนนี้ฝนหยุดตก

      มองเห็นทัศนียภาพข้างนอกที่คุ้นชินอย่างที่เคยๆเห็นอยู่ทุกวัน

      ไดอารี่ของฉันก็คงเป็นเหมือนกับวันนี้

      ข้อความสั้นๆเหล่านั้นก็เหมือนฝนที่กำลังตกหนัก ..มันมองเห็นไม่ชัด..

      ส่วนบันทึกในสมองก็คงเหมือนฝนที่หยุดตกแล้ว

      แม้จะเลือนรางที่มองไม่ชัด แต่ก็มันยังจำได้ว่าภายนอกเป็นอย่างไร

       

      โลกของฉันยังคงหมุนต่อไป

      .

      End .
      ........................................................................................................
      เรื่องนี้แทยอนเริ่มแก่แล้วแน่ๆเลย ฮ่าๆ
      ก็ไรเตอร์เคยได้ยินว่าคนแก่ชอบนั่งนึกถึงความหลัง
      เอ แต่แก่ก็คงจะฟังดูน่าเกลียดไปเพราะฟานี่ของเราอายุมากกว่าแทยังเพิ่งแต่งงานเลย -*-
      เอาเป็นว่าเรื่องนี้เป็นวัยกลางคนและกันเนอะ ^^

      ปล.วันช็อตเรื่องที่แล้ว Game ของยูลสิกถ้าใครได้อ่าน(มีคนอ่านไหมเนี่ย ฮ่า ฮ่า) แล้วบอกว่าค้างๆไรเตอร์เองก็ขอสารภาพบาปว่า ตัน!!!  บ๊ายบาย ฟิ้ว ~.

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×